เวิร์ลเดอรัน (Setting)

Common history of Worlderun 
ประวัติศาสตร์แห่งทวีปเวิร์ลเดอรันพื้นฐาน

 

The Great Land & The Oceans

มหาทวีป และมหาสมุทร


มหาทวีปเวิร์ลเดอรัน
(Worlderun) แผ่นดินที่กว้างใหญ่ไพศาล ขนาบด้วยมหาสมุทรทั้ง 4 ทิศ ทิศเหนือ: นอร์เซียร์ (Norxir), ทิศตะวันตก: ตราโกเซียร์ หรืออิสเทรเซียร์ (Dhragoxir-Ystrexir), ทิศตะวันออก: ไอเซียร์ (Aexir), ทิศใต้: ซูเธเซียร์ (Suthexir)

 

Krellagon

เครลลากอน



    ห่างออกไปทางทะเลตะวันตกตราโกเซียร์ เป็นที่ตั้งของเกาะเครลลากอน (Krellagon) เผ่าพันธุ์ดรากอนบอร์นบันทึกเอาไว้เป็นลายลักษณ์อักษรว่าเป็นดินแดนต้นกำเนิดของพวกเขา และเป็นที่อยู่ของ อาร์คานาคริสตอล (Arcana crystal) อันเป็นวัตถุเวทย์มนต์ที่ทรงพลังที่สุดในโลก เป็นอดีตนครโบราณของเหล่ามังกรและดรากอนบอร์น เผ่าพันธุ์อื่นๆต่างรู้จักเครลลากอนในฐานะเกาะมังกร เข้าถึงได้ยากด้วยมรสุมทางทะเลซึ่งไม่เคยสงบเลยมาตลอดหลายร้อยปี จึงทำให้เชื่อกันว่ามีสมบัติล้ำค่า (อาร์คานาคริสตอล) เก็บรักษาเอาไว้ ดึงดูดให้เหล่านักผจญภัยพยายามล่องเรือไปที่เกาะ แต่ก็มีน้อยคนที่รอดชีวิตกลับมาพร้อมกับของล้ำค่าใดๆ

 

Nameless Land

ดินแดนไร้ชื่อ



    ดินแดนไร้ชื่อ มีปรากฏการพูดถึงแผ่นดินห่างไกลทางทะเลตะวันออกไอเซียร์เพียงสามครั้งเท่านั้นในประวัติศาสตร์

I. คือบันทึกของนักผจญภัยเผ่าเอลฟ์ผู้หนึ่งพร้อมกับลูกเรือ พวกเขาต้องการสำรวจทะเลตะวันออกจนพบแผ่นดิน แต่อะไรบางอย่างทำให้คณะเดินทางเสียสติจนต้องล่องเรือกลับมายังพอร์ท-เอียส์เทลลา

II. มีผู้พบข้อความในขวดแก้วความว่า โจรสลัดกลุ่มหนึ่งได้เดินทางไปจนพบแผ่นดินลึกลับ แต่ก็ถูกสัตว์ร้ายโจมตีจนเรืออัปปาง ผู้ซึ่งเขียนข้อความติดอยู่ที่เกาะและต้องการความช่วยเหลือ กว่าข้อความจะถึงแผ่นดินใหญ่ก็สันนิษฐานได้ว่าถูกเขียนขึ้นมานานหลายปีแล้ว

III. เมื่อคณะพ่อค้าจากเมืองท่าอยู่ในระหว่างการเดินทางไปค้าขายยังพอร์ท-เอียโร ถูกพายุซัดจนออกนอกเส้นทาง พวกเขาได้พบกับแผ่นดินซึ่งไม่ปรากฏในแผนที่ที่รู้จักทางตะวันออกไกล ลูกเรือคนหนึ่งกลายเป็นบ้าและได้วาดภาพของแผ่นดินนั้นออกมา การวาดภาพเกาะไร้นามสร้างความตื่นตัวแก่ผู้คนในเวิร์ลเดอรันจนเริ่มมีชื่อเสียง

    คนส่วนหนึ่งเชื่อว่าการค้นพบทั้งสามครั้งเกิดจากความวิปริตของจิตใจเมื่อต้องอยู่ท่ามกลางทะเลเป็นเวลานาน และคิดว่าเป็นเพียงเรื่องไร้สาระของคนบ้า คนส่วนหนึ่งเชื่อว่าเกาะนั้นมีอยู่จริง แต่ถูกปกป้องโดยพลังเหนือธรรมชาติที่แข็งแกร่ง หรือสัตว์ร้ายในตำนาน ดึงดูดให้เหล่านักผจญภัยกล้าตายให้เข้าไปสำรวจ


อาณาจักรเอลฟ์

Northiel [City]
นอร์ธิเอล



    เหนือของเวิร์ลเดอรัน เป็นที่ตั้งของป่าอันยิ่งใหญ่สองแห่งหนึ่งในนั้นคือ นอร์ธีเอล (Northiel) เป็นที่อยู่ของเหล่าวูดเอลฟ์ (Wood elf) หรือกรีนเอลฟ์ (Green elf) ปกครองโดยราชาแห่งวูดเอลฟ์ (Wood elf king) ที่ใจกลางป่าเป็นที่สถิตของต้นไม้ขนาดยักษ์เรียกกันว่าต้นไม้โลก หรือ ไอดราเซีย (Aidraxir) เป็นต้นไม้ซึ่งกิ่งก้านแต่ละแห่งยืดแผ่ขยายออกมาเป็นวงกว้าง เป็นพอร์ทัล (Portal) สู่เฟย์ไวล์ด (Feywild) ในขณะที่รากของไอดราเซียนำไปสู่พอร์ทัลซึ่งเชื่อมกับ ชาโดวเฟล (Shadowfell)

คำอธิบายเมืองนอร์ธีเอล

    เมืองอันสร้างขึ้นจากไม้และลำต้นหนาใหญ่ของพฤกษชาติโบราณ อาคารสิ่งปลูกสร้างตั้งอยู่เหนือแมกไม้ วูดเอลฟ์ชั้นสูงจะอาศัยสูงขึ้นไปลดหลั่นลงมาตามลำดับชั้นของเหล่าเอลฟ์แห่งป่า อันมี 1) ราชา (King), 2) องครักษ์ (Guardian), 3) วิงส์เรนเจอร์ (Wingsranger), 4) เรนเจอร์ (Ranger), 5) ฮันเตอร์ (Hunter), 6) ดาวน์เนอร์ (Downer) อันเป็นคำเรียกพวกเอลฟ์ที่อาศัยอยู่บนพื้นดิน พวกเขามักจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีเขียวและมีความคล่องแคล่วว่องไวมาก คนนอกที่ได้เดินทางผ่านป่ามักจะรู้สึกได้ว่าถูกจับจ้องจากสายตาลึกลับเหนือศรีษะ และหากเดินไปจนพบกับเมืองการาลิน ก็จะเห็นกับหมู่บ้านซึ่งสร้างจากไม้ ปกคลุมหลังคาด้วยพืชพรรณหลากชนิดกลมกลืนไปกับป่า เหนือต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นไปมีกระท่อม และช่องหน้าต่างอยู่เป็นระยะๆ บ้างเห็นเด่นชัดเป็นหลังๆ บ้างฝังลงไปในลำต้นใหญ่ของพฤกษชาติ และที่ต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดคือพระราชวังของราชาวูดเอลฟ์ ซึ่งมีขนาดใหญ่กินพื้นที่ต้นไม้หลายต้น เชื่อมกันด้วยทางเดิน สะพาน และเชือกโหนที่สลับซับซ้อน อารักขาโดยกลุ่มองครักษ์ และวิงส์เรนเจอร์อย่างดี

ความสัมพันธ์กับโลกภายนอก

    วูดเอลฟ์ไม่ค่อยสุงสิงกับเผ่าพันธุ์อื่นเท่าไหร่หากไม่จำเป็น การติดต่อกับพ่อค้าจากต่างแดนนั้นมีอยู่บ้าง แต่ก็ไม่แพร่หลาย และส่วนใหญ่ถูกดูแลโดยวิงส์เรนเจอร์ซึ่งจะค้าขายเฉพาะแต่สิ่งของที่มีประโยชน์กับนอร์ธีเอลหรือหายากจริงๆเท่านั้น

 

Garalin [City]
การาลิน



    ทางตะวันออกเฉียงใต้ของนอร์ธีเอล เป็นที่อยู่ของเหล่าไฮเอลฟ์ (High elf) คือมหานครการาลิน (Galarin) เมืองบนต้นไม้ใหญ่ปกครองโดยรานิชีไฮเอลฟ์ (High elf queen) อาณาจักรการาลินเป็นมหานครของไฮเอลฟ์ ศูนย์รวมของศิลปะวิทยาการ และเวทย์มนต์ สถานที่ตั้งของสภาพ่อมด (The wizard council) มีประมุขคือ อาร์คเมจ (Archmage) แห่งการาลิน แล้วยังเป็นสถานที่ซึ่งมีชื่อเสียงสำหรับเหล่านักร่ายมนต์ (Spellcaster) ต่างๆว่าเป็นศูนย์รวมองค์ความรู้เวทย์มนต์ที่ใหญ่ที่สุด

คำอธิบายเมืองการาลิน

    นครกลางป่าการาลิน อาณาจักรของไฮเอลฟ์ถูกซุกซ่อนเอาไว้ด้วยเวทย์มนต์ของอาร์คเมจ มีเพียงไฮเอลฟ์และเครื่องรางเฉพาะบางชนิดเท่านั้นที่จะเปิดเผยเส้นทางที่นำไปสู่ที่ตั้งของเมืองได้ คนนอกที่ได้เข้าไปยังการาลินต่างเล่าขานว่าคือนครที่งดงามอย่างกับภพภูมิของเทพเจ้า อาคารบ้านเรือนสร้างจากหินอ่อน และไม้สีขาวนวลเลียนแบบไอดราเซียร์ต้นไม้โลก จนทำให้เหมือนกับว่าได้เดินอยู่ท่ามกลางป่าแห่งสรวงสวรรค์ที่รื่นรมย์ เหล่าเอลฟ์แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สวยสดงดงามเพลินใจเมื่อได้มอง แสงอาทิตย์สาดส่องปราศจากเมฆดำ และยามค่ำคืนก็เห็นด้วงดาวพร่างพรายชัดเจน

ความสัมพันธ์กับโลกภายนอก

    การาลินขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ศึกษาอาร์คานาที่น่าเชื่อถือ โดยอาร์คเมจแห่งการาลินผู้ได้รับการขนานนามว่าเป็นพ่อมดที่ทรงพลังที่สุดในเวิร์ลเดอรัน จึงมีเหล่านักร่ายมนต์จากทั่วสารทิศเดินทางเข้ามาศึกษา การาลินทำการค้ากับอาร์โธเดน และซาฮาเรียร์เป็นหลัก แต่บางครั้งก็มีการติดต่อกับโฮลวาร์เพื่อค้าขายอัญมนีและเสื้อผ้ากับพวกคนแคระภูเขาอยู่เนืองๆ

 

อาณาจักรมนุษย์

Arthoden [Great City] The kingdom of Aidelon
อาร์โธเดน อาณาจักรแห่งไอเดลอน

    อาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดของมนุษย์ ปกครองโดยกษัตริย์อาร์โธเดน (King of Arthoden) เป็นมหานครศูนย์กลางการค้า ที่ตั้งของสมาพันการค้า (Trader guild) เป็นเมืองที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ที่สุด และมีประชากรมากที่สุด มีกำแพงเมืองและปราการที่แข็งแกร่ง ที่อยู่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์และเผ่าผสม (Half-orc, Half-elf, Tiefling) ต่างๆ ทุกคนสามารถเข้ามาอยู่อาศัยในอาร์โธเดนได้ โดยการคุ้มครองของบทบัญญัติของอาร์เดน (Arden’s comandment) กษัตริย์พระองค์แรกแห่งอาร์โธเดน อันมีความว่า

I. นครแห่งนี้เป็นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตที่ทรงธรรม ทุกเผ่าพันธุ์สามารถเข้ามาอยู่อาศัย ลี้ภัย หรือทำงานในอาร์โธเดนได้อย่างอิสระ

II. ชาวอาร์โธเดนได้รับการคุ้มครองจากกษัตรย์แห่งอาร์โธเดนและอัศวินของพระองค์

III. ทุกเผ่าพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในอาร์โธเดนคือพลเมืองชาวอาร์โธเดนทั้งสิ้น

IV. ชาวอาร์โธเดนซึ่งเคารพในกฎหมายจะได้รับรางวัล

V. ชาวอาร์โธเดนซึ่งกระทำผิดกฎหมายจะได้รับการลงโทษ

    ทำให้อาร์โธเดนเป็นนครซึ่งมีเผ่าพันธุ์หลากหลายอาศัยอยู่ สามารถพบเห็นสิ่งมีชีวิตจากเผ่าพันธุ์ต่างๆในเวิร์ลเดอรันได้ที่นครแห่งนี้

    เป็นศูนย์บัญชาการของหน่วยพาลาดินแห่งไอเดลอน (Paladins of Aidelon) นักรบผู้ถวายสัตย์ปกป้องอาณาจักรอาร์โธเดน และพลเมืองตราบชีวิตจะหาไม่

คำอธิบายมหานครอาร์โธเดน

    อาณาจักรของมนุษย์ล้อมรอบด้วยกำแพงหินขนาดใหญ่ ป้อมปราการ 18 แห่งรอบเมืองมีทหารประจำการทุกจุด จากรอบกำแพงเมืองชั้นนอกเป็นที่ตั้งของแหล่งเกษตรกรรม เมื่อเข้ามาในกำแพงเป็นที่ตั้งของโรงกลั่น ร้านผลิตสินค้า ที่อยู่ของกรรมกร และพ่อค้า ใกล้เข้ามาสู่ศูนย์กลางคือที่อยู่ของชาวเมือง โรงแรม ร้านค้า ที่ตั้งของสถานที่สำคัญต่างๆ และชั้นในสุดคือปราสาทไอเดลอนที่ตั้งของกลุ่มอัศวินพาลาดิน และพระราชวังของกษัตริย์แห่งอาร์โธเดน สถานที่แห่งนี้อุดมไปด้วยเผ่าพันธุ์ต่างๆมากมาย จึงกล่าวได้ว่านี่คือนครแห่งเสรีภาพ ชาวเมืองอยู่อาศัยร่วมกันโดยการดูแลของทหารของกษัตริย์

 

Esgaroth [City]



    อาณาจักรมนุษย์ทางเหนือของทะเลสาบกรีนเวล (Greenvale) ปกครองโดยนักบวชสูงแห่งกรีนเวล (The High priest of Greenvale) เป็นหนึ่งในนครของมนุษย์

    ที่อยู่ของโบสถ์เทพีเซเลเซียร์ (The church of Celexir) สถานที่สำคัญของเซลูเซียน (Celuxian: ผู้นับถือเทพีเซเลเซียร์) ในเวิร์ลเดอรันซึ่งจะรวมตัวกันในงานเทศกาลประจำปีเพื่อบูชาเทพีแห่งแสง เป็นสถานที่กำเนิดของภาคีแห่งแสง (The order of Light) อันมีผู้นำคือ เคลริคแห่งกรีนเวล (Cleric of Greenvale) ผู้นำของนักรบเคลริคเซลูเซียน (Celuxian warrior)

 

Zaharir [City]
ซาฮาเรีย



    นครทะเลทราย อาณาจักรมนุษย์แดนตะวันตก นครลี้ลับที่คนภายนอกยากจะมีโอกาสได้เข้าไป นครกลางทะเลทรายแห้งแล้ง ตั้งอยู่บริเวณโอเอซิสขนาดใหญ่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ปกครองโดยซาห์แห่งซาฮาเรียร์ (Zah of Zaharir) อาณาจักรที่โด่งดังอันเป็นที่อยู่ของ เอนฟัลทัส (Enfaltus) ช้างขนาดใหญ่ เป็นที่อยู่ของกลุ่มนักล่าค่าหัวที่โด่งดังนามว่า “ไอเทนคราวน์” (Eightencrown) นำโดยเรนเจอร์ทรายแห่งตะวันตก (The west sand ranger) ที่แห่งนี้ยังมีวิหารโบราณ “โซเราทัส” (Zorautas) ซึ่งเป็นห้องสมุดเก็บรวบรวมตำรา คัมภีร์ในแขนงต่างๆเอาไว้มากมาย เป็นที่อยู่ของวิหารแห่งอาเธียร์ (Church of Athir) สถานที่รวบรวมเหล่า อาเธียน (Athian) ผู้นับถือเทพอาเธียร์เพื่อมุ่งสู่ความรู้แห่งอาร์เคนเฉกเช่นเหล่ามังกรโบราณ

การเดินทางมายังซาฮาเรียร์นั้นยากลำบาก ด้วยเส้นทางพิเศษจากกลุ่มพ่อค้าที่เดินทางไปค้าขายในต่างแดน เส้นทางนั้นเรียกว่า “ถนนทองคำ” (The golden road) ทำให้คนที่เคยมาซาฮาเรียร์มักเป็นทหารรับจ้าง พ่อค้า ทูตเป็นส่วนใหญ่

 

Port-Eastella [Town]
พอร์ท-อีสเทลลา

    เมืองท่าเอียส์เทลลา (Port-Eastella) เป็นเมืองท่าชุมทางเรือเดินสมุทร ที่ตั้งของสมาพันนักสำรวจ (Explorer guild) ทางตะวันตกของเมืองคืออ่าววาเลนทิส (Whalentis) ที่แห่งนี้เป็นที่ซึ่งนักเดินทางและทหารเรือของอาร์โธเดนใช้ในการเตรียมตัวเพื่อออกสำรวจ หรือลาดตระเวนน่านน้ำฝั่งตะวันออก อีกทั้งยังเป็นที่ซื้อขายสินค้าหายากจากดินแดนต่างๆ เป็นที่อยู่ของกลุ่ม เลอเวียน (Le-vian) กลุ่มนักเดินทางโดยเรือที่เก่งกาจที่สุดในวาเลนทิสผู้พยายามเดินทางไปยังดินแดนไร้ชื่อ และเกาะเครลลากอนในตำนานอยู่บ่อยครั้ง ด้วยเรือที่โด่งดัง “เลอวีอัลโท” (Le-vialto) ผู้ไม่เคยจมและเป็นเรือลำเดียวที่สามารถฝ่าความพิโรธของมหาสมุทรรอดกลับมาได้ทุกครั้งไป จนเป็นที่เลื่องลือว่าคนของกัปตันแห่งเลอวีอัลโท คือซอเซอเรอร์ที่เก่งกาจ ผู้มีฉายาว่า “ไฟแห่งลาธ” (The flame of Lath)

 

ปราการออร์ค

Stonec [City]
สโตเนค



    ไกลออกไปที่ชายฝั่งตะวันออก แหลมแผ่นดินยื่นขึ้นไปทางเหนือเป็นที่ตั้งของปราการมืดแห่งสโตเนค (The Dark fortress of Stonec) เป็นสถานที่กำเนิดของออร์ค ออร์คยึดครองปราการมืดและสร้างอาณาจักรของตนเองขึ้นที่นั่น โดนการนำของแม่ทัพออร์ค (Orc Warchief) แห่งสโตเนค สถานที่แห่งนี้เป็นที่รู้กันว่าเต็มไปด้วยสัตว์ร้าย และสภาพอากาศมรสุมรุนแรง ผู้ที่จะอยู่อาศัยอยู่ในสโตเนคจึงถูกบ่มเพาะให้กลายเป็นผู้ที่เอาชีวิตรอดในสภาพแวดล้อมโหดร้ายได้ ที่แห่งนี้ยังเป็นที่หลบซ่อนตัวของอาชญากร วอร์ลอค หรือนักฆ่า ด้วยเป็นหนึ่งในดินแดนไร้กฎ (Ruless land) หากแข็งแกร่งพอก็จะสามารถเข้ามาอยู่อาศัยได้แม้ไม่ใช่ออร์คก็ตาม

เป็นเขตแดนของออร์คเผ่าต่างๆที่แตกต่างกัน โดยเผ่าซึ่งมีอำนาจสูงสุดคือเผ่าของแม่ทัพออร์ค ประจำปีพวกออร์คจะมีการประลองเพื่อแต่งตั้งราชาคนใหม่จากทั้งหมด 9 เผ่า Blorde, Fleken, Bruth, Greech, Mamnic, Helmor, Frode, Nark และ Leach

 

4.      ฮาล์ฟลิง

Bolitten [Town]

เนินเขาทุ่งหญ้าเขียวขจีอันสงบสุข สถานที่แห่งนี้เป็นที่อยู่ของเหล่าฮาล์ฟลิง (Halfling) พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นฟาร์ม สวน ไร่ธัญพืช ผัก และผลไม้ต่างๆ มีตาน้ำธรรมชาติผุดขึ้นจากในป่า และเป็นสถานที่ซึ่งว่ากันว่าถูกคุ้มครองเอาไว้ด้วยเวทย์มนต์โบราณที่ทำให้เหล่าปีศาจ สัตว์ร้าย หรือผู้ซึ่งฝักใฝ่ในศาสตร์มืดไม่สามารถเข้ามาในโบลิทเทนได้

 

Port-Hillton [Village]

หมู่บ้านฮิลตัน หรือเมืองท่าฮิลตัน เป็นหมู่บ้านเล็กๆทางเหนือของโบลิทเทน เป็นที่จอดเรือสินค้า และเรือเดินทางเป็นเมืองซึ่งผู้คนส่วนใหญ่เป็นนักตกปลา หาของทะเล เป็นจุดแวะพักของนักเดินทาง ชาวเมืองเป็นมนุษย์ และฮาล์ฟลิงเป็นส่วนใหญ่

 

5.      อาณาจักรคนแคระ

Holwar [Great City]

ลึกไปในหุบเขาหินขาว เป็นที่ตั้งของอาณาจักรเหมืองโฮลวาร์ (Holwar) ของเหล่าคนแคระภูเขา (Mountain dwarf) ปกครองโดยราชาแห่งขุนเขา (The mountain king) “ทั่งของโลก” (Evil of the world) คือฉายาอันมาจากงานของเหล่าคนแคระซึ่งขุดเหมืองขึ้นจากกำลังกายของเผ่าพันธุ์ผู้ทรหด เป็นที่อยู่ของเจ้าแห่งช่างตีเหล็ก (Forgemaster) ทั้ง 5 เป็นสถานที่ตีอาวุธจากแร่ธาตุที่ดีที่สุดในเวิร์ลเดอรัน

 

Throhir [Town]

ทางใต้เหมืองเอเบรอน (Eberon) เป็นที่ตั้งของเมืองโธรเฮียร์ (Throhir) เมืองของคนแคระเนินเขา (Hill dwarf) ชาวเมืองส่วนใหญ่ทำหน้าที่เป็นช่างตีเหล็กและขุดเหมือง มีผู้นำคือ เหล่าเอลเดอร์ (Elders)

 

6.      ดรากอนบอร์น

Ectregon [City]

มหานครที่เคยรุ่งเรือง ปัจจุบันหลงเหลือปราสาท ปราการ และกำแพงเมืองซึ่งสะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตของมังกรแห่งเครลลากอน เป็นที่อยู่ของดรากอนบอร์นส่วนใหญ่ที่ยังยึดมั่นในแคลนและประเพณีของเผ่าพันธุ์ ปกครองโดยดรากอนเอลเดอร์ (Dragon elder) มังกรเฒ่าแห่งเอคเทรกอน หนึ่งในมังกรที่รอดชีวิตจากการล่มสลายครั้งใหญ่

 

Port-Earo [Town]

เมืองท่าที่หลงเหลือของอารยธรรมมังกรโบราณ ปัจจุบันเป็นที่อยู่ของเหล่านักเดินทางพเนจร พ่อค้าที่เดินทางมาค้าขายกับเอคเทรกอน และนักผจญภัยต่างๆ เหล่าดรากอนบอร์นที่ละทิ้งในวิธีของมังกรร้ายมักปลีกตัวมาใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองเอียโร

 

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม